สงวนสิทธิ์มิให้นำเนื้อหาในบล๊อกไปใช้กระทำเพื่อการจำหน่าย ยกเว้นการนำไปใช้เพื่อการศึกษาและโปรดให้เครดิตเจ้าของผลงานด้วยค่ะ

วันอาทิตย์ที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2563

เขียนอะไรดี! เริ่มตรงนี้จ้า!

        ชิมน้ำไปแล้ว  ไม่อร่อยก็ปรุงเพิ่มนะคะ  มาค่ะ มาทานเนื้อกัน 



เราจะเริ่มเขียนหนังสือได้อย่างไรเริ่มยังไงดี

        1. หาเรื่องค่ะ หาเรื่องมาเขียนนะคะ ไม่ใช่หาเรื่องหาราวใคร😁

การที่เราจะเริ่มต้นเขียนหนังสือ ต้องมีเรื่องราว เนื้อหาที่อยากถ่ายทอดก่อนจ้าหรือเรื่องที่เรารู้ เราสนใจอยากจะเล่าให้คนอ่านฟังการเขียนในช่วงแรกๆนั้นเราควรเขียนเรื่องที่เรารู้ดีและถนัดที่สุดค่ะ หรือเรื่องที่เราอยากเขียน

 

ยกตัวอย่าง เช่น  เรื่องราวเกี่ยวกับตัวเราเอง  ความชอบส่วนตัว  สิ่งทึ่ชอบทำ เป็นต้น

คนชอบเที่ยวเขียนเรื่องเที่ยว บรรยายสถานที่ท่องเที่ยว แนะนำการเดินทาง ที่พัก ร้านอาหาร ค่าใช้จ่าย

คนชอบทานเขียนรีวิวร้านอาหาร ราคา รสชาติ ความประทับใจ     

ถ้าหากเราเป็นนักลงทุน หรือคนที่หารายได้เสริม ก็อาจเขียนแนะนำอาชีพที่สร้างรายได้

อื่นๆ

 

ถ้าอยากเขียนเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับที่เราชอบเราทำอยู่ล่ะ อยากเขียนนิยาย  นวนิยายลองดูบ้าง คำตอบคือ  เขียนได้อยู่แล้ว  เพียงเรามีจินตนาการ  เราอยากสร้างพระเอกนางเอกแบบไหนเราก็สร้างได้

 

        นั่งเขียนเรื่องที่เราคิดว่าจะเขียนลงในโน้ตดูค่ะ  เขียนมาเยอะๆ เลยค่ะ  หลายๆหัวข้อ  แล้วค่อยเลือกเรื่องที่น่าจะถนัดและเขียนได้เร็วที่สุดมาก่อนเลย  แล้วเขียนเลยจ้า

       

         2. คนอ่าน  ใครคือคนอ่าน

 เขียนแล้วจะมีคนมาอ่านงานที่เราเขียนไหมหนอ  คนกลุ่มไหนหนอจะมาอ่านงานเรา

       ตรงนี้เราลองมากำหนดกลุ่มคนอ่านของเราให้แคบลงเจาะลงไปเลยว่า  เรื่องที่เรากำลังเขียนนี้เราตั้งใจจะเขียนให้ใครอ่าน  เราจะได้ตีกรอบความคิด  และคาดเดาความคิดกลุ่มเป้าหมายได้ว่า  คนอ่านอยากรู้อะไร  สนใจอะไรอยากได้อะไรจากการเขียนของเรา  เราจะได้เขียนสิ่งเหล่านั้นเพื่อคนอ่าน

 

คนอ่านก็จะหาข้อมูล หรือสนใจเรื่องที่เขาอยากรู้   เช่น  คนขายส้มตำ อาจจะอยากรู้สูตรส้มตำรสแซ่บที่หลากหลายเพื่อทำเมนูใหม่ๆ มาคอยบริการลูกค้า  คงไม่เข้ามาอ่านวิธีการเขียนเพื่อทำหนังสือ 

 

นอกเสียจากว่าวันหนึ่งแม่ค้าส้มตำ  อยากจะแบ่งปันเรื่องราวของเขา  หรือขายสูตรอาหาร เขาอาจจะเข้ามาอ่านวิธีการเขียนนี้

 

อย่าลืมนะคะว่า  เรื่องที่เราเขียนได้ดีที่สุด  ไม่ใช่ทุกคนที่ต้องการอ่าน และเรื่องที่แย่ที่สุดของเรา  อาจเป็นเรื่องหรือสิ่งที่คนอ่านบางคนอยากรู้ก็ได้ ดังนั้น ถ้าอยากเขียน 

 

เขียนเถอะค่ะ อย่ากังวล

 

       ตั้งเป้าหมายกำหนดกลุ่มเลยค่ะ..

ว่าเรื่องที่กำลังเขียนนั้นเขียนเพื่อใคร กลุ่มไหน

เช่นเรื่องการเลี้ยงเด็ก  กลุ่มเป้าหมาย ก็คือคุณแม่  คุณครูเนอรสเซอรี่ 

การเลี้ยงไก่  คือ  กลุ่มเกษตรกรที่เลี้ยงไก่  หรือคนที่อยากทำอาชีพเลี้ยงไก่

แนะนำอาชีพ  กลุ่มคนว่างงาน หรือ คนที่ต้องการหารายได้เสริม  เป็นต้น

 

 

    3.    เนื้อหาสาระที่คนอ่านอยากอ่าน

 ถ้าอยากให้กลุ่มที่เราตั้งเป้าหมายไว้อ่านงานเขียนของเรา  ต้องทำสิ่งนี้

         เมื่อได้เรื่องที่จะเขียนแล้ว เรื่องที่เราจะเขียนนี้ ให้ลองสมมติเราเองเป็นคนอ่านค่ะ ว่าถ้าเราเป็นคนอ่านผู้อ่านต้องการรู้อะไรกับเรื่องที่เราเขียน และเราจะให้อะไรกับผู้อ่านได้บ้าง

 

        แต่ถ้าเราต้องการมีรายได้จากการเขียน หรืออยากเขียนเพื่อช่วยคน  เราต้องนึกเสมอว่าเราจะเขียนคุณค่าให้คนอ่าน เขียนสิ่งที่คนอ่านอยากรู้  และสิ่งที่จะเป็นประโยชน์ต่อคนอ่าน

 

          บีบวงแคบของเรื่องที่เขียนลงมาที่การกำหนดประโยชน์ 

และคุณค่าของเรื่องที่เราเขียนเพื่อคนอ่านให้ได้มากที่สุด  ในการเขียนเรื่องแต่ละครั้ง 

จะเป็นประโยชน์ต่อเราเองด้วย  ตรงที่เรื่องราวจะไม่ออกนอกคุ้งน้ำสู่ทะเล  

คุมกรอบแนวคิดอย่าให้ฟุ้งกระจาย เอาทีละประเด็น เจาะทีละประเด็นนะจ๊ะ

 

อย่าลืมนะคะ  1.เรื่องที่จะเขียน

                       2.ใครคือคนอ่าน

                        3. คนอ่านอยากรู้อะไร


ตอนต่อไป   "ปมในใจฉันใหญ่เกินจะเขียนมัน"  

เราจะแก้ปมที่ทำให้เราเขียนไม่ได้กันนะ

 



แม่เองก็ไม่เก่งหรอลูก  แต่ไม่กลัวที่ทำ  ลุย!   



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ใช้คำสุภาพนะคะ

ช้างน้อยชอบคนพูดเพราะ